สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ถึงคู่สมรสทั้งหลาย

ขอขอบพระคุณพระคุณเจ้าวีระ อาภรณ์รัตน์ ผู้แปลสาส์นขององค์สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ถึงบรรดาคู่สมรส

สมณลิขิตของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
ถึงคู่สมรสสำหรับปี ครอบครัว
(Amoris Laetitia Family Year 19 มีนาคม 2021 – 26 มิถุนายน 2022)
++++++++++
https://www.vatican.va/content/francesco/en/letters/2021/documents/20211226-lettera-sposi-anno-famiglia-amorislaetitia.html
• • —– ٠ ✤ ٠ —– • •
ถึงคู่แต่งงานที่รักทั่วโลก!

ในปี “ครอบครัวแห่งความชื่นชมยินดีแห่งความรัก” นี้ ข้าพเจ้ากำลังเขียนเพื่อแสดงความรักและความใกล้ชิดในช่วงเวลาพิเศษนี้ ครอบครัวอยู่ในความคิดและคำภาวนาของข้าพเจ้ามาโดยตลอด แต่เป็นพิเศษในช่วงการแพร่ระบาด ซึ่งได้ทดสอบทุกคนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อ่อนแอที่สุดในพวกเรา สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ข้าพเจ้าอยากร่วมก้าวเดินด้วยความถ่อมตน ความรัก และการเปิดกว้างของแต่ละคน แก่คู่สมรส และครอบครัว ในทุกสถานการณ์ที่ท่านพบ

เรากำลังถูกขอให้ประยุกต์ชีวิตกับการเรียกที่อับราฮัมได้รับจากพระเจ้า ให้ออกจากดินแดนและบ้านของบิดาไปยังต่างแดน ที่พระเจ้าจะทรงแสดงให้เขาเห็น (เทียบ ปฐมกาล 12:1) เราเองก็เคยพบกับความไม่แน่นอน ความโดดเดี่ยว การสูญเสียคนรัก เราเองก็ถูกบังคับให้ละทิ้งความแน่นอนของเราจาก “โซนสะดวกสบาย” วิธีการทำสิ่งต่างๆ ความใฝ่ฝันของเราที่คุ้นเคย และทำงานเพื่อสวัสดิการของครอบครัวและสังคมโดยรวม ซึ่งขึ้นอยู่กับเราและการกระทำของเรา

ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าหล่อหลอมเรา เคียงข้างเรา และส่งเราแต่ละคนออกไป และท้ายที่สุด ช่วยให้เรา “ออกจากดินแดนของเรา” แม้ว่าในหลายกรณีจะมีความกังวลใจและความหวาดกลัว เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่รู้ ทว่าความเชื่อของคริสตชนทำให้เราตระหนักว่าเราไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เพราะพระเจ้าสถิตอยู่ในเรา กับเรา และท่ามกลางเรา: ในครอบครัว ละแวกบ้าน สถานที่ทำงาน โรงเรียนของเรา และ ในเมืองที่เราอาศัยอยู่

เช่นเดียวกับอับราฮัม สามีและภรรยาทุกคน “ออกเดินทาง” จากดินแดนของตนเองในขณะที่ตอบสนองต่อกระแสเรียกของความรักในการสมรส พวกท่านตัดสินใจที่จะมอบตัวเองให้กันโดยไม่มีการสำรอง การหมั้นหมายถึงการออกจากดินแดนของท่าน เพราะมันเรียกร้องให้ท่านเดินไปตามหนทางที่นำไปสู่การแต่งงานด้วยกัน สถานการณ์ที่แตกต่างในชีวิต กาลเวลา การมีลูก การงาน และความเจ็บป่วย ต่างท้าทายคู่สามีภรรยาให้น้อมรับคำมั่นสัญญาต่อกันอีกครั้ง ละทิ้งความเคยชิน ความแน่นอน ความมั่นคง และมุ่งสู่ดินแดนที่พระเจ้าทรงสัญญา: เป็นสองในพระคริสต์ สองในหนึ่ง ชีวิตของท่านกลายเป็นชีวิตเดียว ท่านกลายเป็น “เรา” ในการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูด้วยความรัก มีชีวิตและทรงอยู่กับท่านในทุกช่วงเวลาของการดำรงอยู่ พระเจ้าทรงอยู่เคียงข้างท่านเสมอ พระองค์ทรงรักท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข ท่านไม่ได้อยู่คนเดียว!

คู่สมรสที่รัก จงรู้ว่าบรรดาลูกๆ โดยเฉพาะคนที่อายุน้อยกว่า – ต้องคอยดูลูกอย่างตั้งใจ ในตัวลูก พวกเขาแสวงหาสัญญาณของความรักที่เข้มแข็งและเชื่อถือได้ “เป็นเรื่องสำคัญเพียงใดที่คนหนุ่มสาวจะได้เห็นกับตาตนเองถึงความรักของพระคริสต์ที่มีชีวิตและนำเสนอในความรักของคู่สมรส ผู้เป็นพยานความจริงในชีวิตของพวกเขาว่าความรักตลอดไป เป็นไปได้!” [1] เด็กๆเป็นของขวัญเสมอ พวกเขาเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของทุกครอบครัว พวกเขากระหายความรัก ความกตัญญู ความนับถือ และความไว้วางใจ การเป็นพ่อแม่เรียกร้องให้ท่านส่งต่อความปีติยินดีให้กับลูกๆ โดยตระหนักว่าพวกเขาเป็นลูกของพระเจ้า ลูกของพระบิดาผู้ทรงรักพวกเขาอย่างอ่อนโยนเสมอมา และผู้ทรงจูงมือพวกเขาทุกวันใหม่ เมื่อพวกเขารู้สิ่งนี้ ลูกๆจะเติบโตในความเชื่อศรัทธาและความวางใจในพระเจ้า

แน่นอนว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่าลืมว่าพวกเขายัง “เลี้ยงดู” เราด้วย ครอบครัวยังคงเป็นสภาพแวดล้อมหลักที่เกิดการศึกษา ผ่านการแสดงท่าทางเล็กๆที่โน้มน้าวใจมากกว่าคำพูด การให้การศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในกระบวนการเติบโต การได้อยู่กับเด็กๆในรูปแบบที่แตกต่างมากมาย ช่วยให้พวกเขาตระหนักว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาพ่อแม่ได้ตลอดเวลา นักการศึกษาคือคนที่ “ให้กำเนิด” ฝ่ายจิตวิญญาณแก่ผู้อื่นและเหนือสิ่งอื่นใด มีส่วนร่วมส่วนตัวในการเติบโตของพวกเขา สำหรับพ่อแม่ สิ่งสำคัญคือต้องเกี่ยวข้องกับเด็กๆด้วยอำนาจหน้าที่ที่เติบโตขึ้นแต่ละวัน เด็กๆต้องการความรู้สึกปลอดภัยที่สามารถทำให้พวกท่านมั่นใจในตัวลูก และในความงดงามของชีวิตร่วมกัน และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่มีวันอยู่คนเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไปแล้ว เรากำลังตระหนักมากขึ้นถึงอัตลักษณ์และพันธกิจของฆราวาสในพระศาสนจักรและในสังคม ท่านมีภารกิจในการเปลี่ยนแปลงสังคมโดยการปรากฏตัวของท่านในที่ทำงาน และทำให้มั่นใจว่าความต้องการของครอบครัวได้รับการพิจารณาอย่างเหมาะสม คู่สมรสก็ควรเป็นผู้นำเช่นกัน (กล้าได้กล้าเสีย) [2] ในละแวกวัดและชุมชน สังฆมณฑลผ่านความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา เป็นการแสดงออกถึงความสมบูรณ์ของความสามารถพิเศษ และกระแสเรียกในการให้บริการของการมีส่วนร่วมของพระศาสนจักร นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคู่สามีภรรยาที่พร้อมด้วยผู้อภิบาลของพระศาสนจักร “เดินเคียงข้างกันกับครอบครัวอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า เพื่อประกาศว่าแม้ท่ามกลางความยากลำบาก พระคริสต์ก็ยังทรงสถิตกับพวกเขาเสมอ” [3]

ดังนั้น ข้าพเจ้าขอสนับสนุนคู่สามีภรรยาที่รัก ให้กระตือรือร้นในพระศาสนจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดูแลครอบครัวอภิบาล “ความรับผิดชอบร่วมกันในพันธกิจของพระศาสนจักรเรียกร้องให้คู่สามีภรรยาและศาสนบริการที่ได้รับศีลบวช โดยเฉพาะบรรดาบิชอป ให้ความร่วมมือในลักษณะที่เป็นผลดีในการดูแลและปกครองพระศาสนจักรในระดับบ้าน” [4] อย่าลืมว่าครอบครัวเป็น “เซลล์ขั้นพื้นฐานของสังคม” (สมณสาส์นเตือนใจ”ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” Evangelii Gaudium, 66) การแต่งงานเป็นส่วนสำคัญของโครงการสร้าง “วัฒนธรรมแห่งการพบปะ” ( Fratelli Tutti, 216) ครอบครัวจึงถูกเรียกให้เชื่อมโยงคนรุ่นต่างๆในการส่งต่อคุณค่าที่หล่อหลอมมนุษยชาติที่แท้จริง ความคิดสร้างสรรค์ใหม่เป็นสิ่งจำเป็นในการแสดงออก ท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน คุณค่าที่ประกอบเรา เป็นฐานะ ทั้งในสังคมและในพระศาสนจักร ประชากรของพระเจ้า

การแต่งงานฐานะกระแสเรียก เรียกให้ท่านบังคับเรือลำเล็ก – ซึ่งถูกคลื่น – ซัดไปแต่ก็มั่นคง ต้องขอบคุณความเป็นจริงของศีลศักดิ์สิทธิ์ – ข้ามทะเลที่มีพายุในบางครั้ง บ่อยเท่าใดที่ท่านต้องการพูด หรือดีกว่านั้น ร้องตะโกน เหมือน บรรดาอัครสาวก: “พระอาจารย์ พระองค์ไม่สนพระทัยที่พวกเรากำลังจะตายอยู่แล้วหรือ?” (มก 4:38) แต่อย่าลืมว่าโดยอาศัยพระพรของศีลสมรส พระเยซูประทับอยู่ในเรือลำนั้น พระองค์ทรงเป็นห่วงท่านและพระองค์ทรงอยู่เคียงข้างท่านท่ามกลางพายุ ในพระวรสารอีกตอนหนึ่ง เมื่อพวกเขาพายเรือลำบาก บรรดาศิษย์เห็นพระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินบนน้ำมาหาพวกเขา และพวกเขาต้อนรับพระองค์เข้าไปในเรือ เมื่อใดก็ตามที่ท่านถูกลมพายุพัดโหมกระหน่ำ ให้ทำเช่นเดียวกัน: ต้อนรับพระเยซูเข้าไปในเรือ เพราะครั้งหนึ่งพระองค์ “เสด็จไปหาพวกเขาในเรือ…ลมก็หยุด” (มก 6:51) เป็นสิ่งสำคัญที่ท่านจะต้องจับตาดูพระเยซูด้วยกัน ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่ท่านจะพบความสงบสุข เอาชนะความขัดแย้ง และค้นพบวิธีแก้ไขปัญหามากมาย แน่นอนว่าปัญหาเหล่านั้นจะไม่หายไป แต่ท่านจะสามารถเห็นมุมมองที่แตกต่างออกไป

โดยการมอบตัวเองให้อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าเท่านั้นที่ท่านจะสามารถทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ จงตระหนักถึงความอ่อนแอและความไร้อำนาจของตนเองเมื่อเผชิญกับสถานการณ์มากมายรอบตัว แต่ในขณะเดียวกัน จงแน่ใจว่าพระอานุภาพของพระคริสต์จะแสดงออกเต็มที่ในความอ่อนแอของท่าน (เทียบ 2 คร 12:9) ท่ามกลางพายุที่บรรดาอัครสาวกได้มารู้จักความเป็นกษัตริย์และเทวภาพของพระเยซู และเรียนรู้ที่จะวางใจในพระองค์

เมื่อนึกถึงข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ในใจ ตอนนี้ข้าพเจ้าอยากไตร่ตรองถึงความยากลำบากและโอกาสบางอย่างที่ครอบครัวได้ประสบระหว่างการระบาดใหญ่ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น การล็อกดาวน์หมายความว่ามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น และนี่เป็นโอกาสพิเศษในการเสริมสร้างการสื่อสารภายในครอบครัว ย่อมต้องใช้ความอดทนเป็นพิเศษ มันไม่ง่ายเลยที่จะอยู่ด้วยกันตลอดทั้งวัน เมื่อทุกคนต้องทำงาน ศึกษา หาความสำราญ และพักผ่อนในบ้านหลังเดียวกัน อย่ายอมให้ความเหน็ดเหนื่อยมาครอบงำ: ขอพลังแห่งความรักทำให้ท่านมองคนอื่นมากขึ้น – ต่อคู่สมรส ต่อลูกๆ – มากกว่าความต้องการและความสนใจของท่าน ให้ข้าพเจ้าเตือนท่านถึงสิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวในพระสมณลิขิตเตือนใจ “ความปีติยินดีแห่งความรัก “ (เทียบข้อ 90-119) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเพลงสรรเสริญความรักของนักบุญเปาโล (เทียบ 1 คร 13:1-3) วิงวอนของประทานแห่งความรักจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์และอ่านอีกครั้งในการฉลองความรักของนักบุญเปาโล เพื่อให้สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการตัดสินใจและการกระทำของท่าน (เทียบ รม 8:15; กท 4:6)

ด้วยวิธีนี้ เวลาที่ท่านใช้ร่วมกัน ห่างไกลจากความสำนึกผิด จะกลายเป็นที่หลบภัยท่ามกลางพายุ ขอให้ทุกครอบครัวเป็นสถานที่แห่งการยอมรับและความเข้าใจ ลองนึกถึงคำแนะนำที่ข้าพเจ้าให้ท่านไว้เกี่ยวกับความสำคัญของสามคำสั้นๆนี้: “ได้โปรด ขอบคุณ ขอโทษ” [5] หลังจากการโต้เถียงทุกครั้ง “อย่าให้วันนั้นจบลงโดยปราศจากการคืนดี” [6] อย่าละอายที่จะคุกเข่าต่อหน้าพระเยซูในศีลมหาสนิท เพื่อที่จะพบช่วงเวลาแห่งสันติ และมองกันด้วยความอ่อนโยนและความดี หรือเมื่อคนใดคนหนึ่งโกรธ ให้จับมือกันแล้วยิ้มอย่างเข้าใจ ท่านอาจสวดสั้นๆร่วมกันทุกเย็นก่อนเข้านอน โดยมีพระเยซูอยู่เคียงข้าง

สำหรับคู่รักบางคู่ สภาพการดำรงชีวิตในช่วงกักตัวนั้นยากเป็นพิเศษ ปัญหาที่มีอยู่ก่อนนั้นรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งในบางกรณีแทบจะทนไม่ได้ หลายคนถึงกับพบความสัมพันธ์แตกหัก ที่ต้องรับมือกับวิกฤตที่พวกเขาพบว่ายากหรือจัดการไม่ได้ ข้าพเจ้าอยากให้พวกเขาสัมผัสถึงความใกล้ชิดและความรักของข้าพเจ้าด้วย

ความล้มเหลวของการแต่งงานทำให้เกิดความทุกข์อย่างใหญ่หลวง เนื่องจากความหวังหลายอย่างพังทลาย และความเข้าใจผิด อาจนำไปสู่การทะเลาะวิวาทและความเจ็บปวดที่รักษาไม่หายง่ายๆ เด็กๆต้องทนทุกข์ทรมานจากการที่เห็นพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป จงแสวงหาความช่วยเหลือต่อไป เพื่อที่ท่านจะสามารถเอาชนะความขัดแย้งและป้องกันความเจ็บปวดให้กับท่านและลูกๆมากยิ่งขึ้น องค์พระเยซูเจ้าผู้เมตตาหาขอบเขตไม่จะทรงดลใจให้ท่านก้าวต่อไปท่ามกลางความยากลำบากและความเศร้าโศก จงภาวนาขอความช่วยเหลือจากพระองค์ จงแสวงหาที่หลบภัยในพระองค์และแสงสว่างสำหรับการเดินทาง ค้นพบในชุมชนของท่านเช่นกัน “บ้านของพระบิดา ซึ่งมีที่พักพิงสำหรับทุกคน ที่มีปัญหาในชีวิต” (สมณสาส์นเตือนใจ”ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” , 47)

อย่าลืมว่าการให้อภัยรักษาทุกบาดแผล การให้อภัยซึ่งกันและกันเป็นผลจากการแก้ปัญหาภายในที่มาสู่ความสมบูรณ์ในการภาวนา ในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า เป็นของขวัญที่เกิดจากพระหรรษทานที่พระคริสต์ประทานแก่คู่สามีภรรยา ทุกครั้งที่พวกเขาหันมาหาพระองค์ และยอมให้พระองค์ทรงช่วย พระคริสต์ “ทรงสถิต” ในชีวิตแต่งงานของท่านและพระองค์ทรงรอให้ท่านเปิดใจรับพระองค์เสมอ เพื่อพระองค์จะทรงสามารถค้ำจุนท่าน เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงทำกับบรรดาศิษย์ในเรือด้วยพลังแห่งความรักของพระองค์ ความรักของมนุษย์เราอ่อนแอ เราต้องการพลังแห่งความรักที่สัตย์ซื่อของพระเยซู พร้อมกับพระองค์ ท่านสามารถสร้าง “บ้านบนศิลา” ได้อย่างแท้จริง (มธ 7:24)

ในที่นี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึงคนหนุ่มสาวที่เตรียมแต่งงาน แม้กระทั่งก่อนเกิดโรคระบาด ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคู่หมั้นที่จะวางแผนอนาคต เนื่องจากความยากลำบากในการหางานที่มั่นคง ตอนนี้ตลาดแรงงานเริ่มไม่มั่นคงมากขึ้น ข้าพเจ้าขอวิงวอนให้คู่รักที่หมั้นหมายอย่าท้อใจ แต่ให้แสดง “ความกล้าหาญเชิงสร้างสรรค์” ที่มองเห็นได้จากนักบุญโยเซฟ ซึ่งข้าพเจ้าอยากให้ความทรงจำในปีนี้เพื่ออุทิศแด่ท่านนักบุญ ในการเดินทางสู่การแต่งงาน จงวางใจในพระญาณเอื้ออาทรของพระเจ้าเสมอ ไม่ว่าวิธีการของท่านจะจำกัดอย่างไรก็ตาม เนื่องจาก “บางครั้งปัญหาอาจดึงทรัพยากรที่เราไม่คิดว่ามีออกมา” (พระสมณลิขิตด้วยหัวใจของบิดา Patris Corde, 5) อย่าลังเลที่จะพึ่งพาครอบครัวและเพื่อนของท่าน ในชุมชนพระศาสนจักร ในเขตวัด เพื่อช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานและชีวิตครอบครัว โดยการเรียนรู้จากบรรดาผู้ที่ได้ก้าวไปบนเส้นทางที่ท่านกำลังมุ่งหน้าไปในเวลานี้

ก่อนสรุป ขอทักทายปู่ย่าตายายที่ช่วงล็อกดาวน์ไม่สามารถเห็นหรือใช้เวลากับหลานๆ และผู้สูงอายุทุกคนที่รู้สึกโดดเดี่ยว ในช่วงหลายเดือนดังกล่าว ครอบครัวต้องการปู่ย่าตายายอย่างมาก เพราะพวกเขาคือความทรงจำที่มีชีวิตของมนุษยชาติ เป็นความทรงจำที่ “สามารถช่วยสร้างโลกที่มีมนุษยธรรมและเป็นมิตรมากขึ้น” [7]

ขอให้นักบุญโยเซฟให้แรงบันดาลใจทุกครอบครัวมีความกล้าหาญเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ ขอแม่พระช่วยส่งเสริมให้ชีวิตสมรสของท่านมีวัฒนธรรมการพบปะที่เราต้องการอย่างเร่งด่วน เพื่อเผชิญกับเรื่องยุ่งยากและปัญหาในปัจจุบัน ไม่มีความยากลำบากใดมาพรากความปีติยินดีของผู้ที่รู้ว่าพวกเขากำลังดำเนินกับพระเจ้า ผู้อยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอ ดำเนินชีวิตตามกระแสเรียกของท่านด้วยความกระตือรือร้น อย่าปล่อยให้ใบหน้าของท่านเศร้าหมองหรือมืดมน สามีหรือภรรยาของท่านต้องการรอยยิ้ม ลูกๆของท่านต้องการกำลังใจ บาทหลวงและครอบครัวอื่นๆ ต้องการการปรากฏและความปีติยินดีของท่าน: ความปีติยินดีที่มาจากพระเจ้า!

ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีถึงทุกคนด้วยความรัก และขอสนับสนุนให้ท่านปฏิบัติภารกิจที่พระเยซูทรงมอบหมายให้ บากบั่นในการภาวนา และใน “การบิขนมปัง” (กิจการ 2:42)

และโปรดอย่าลืมภาวนาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอธิษฐานเพื่อท่านทุกวัน

ในภราดรภาพ

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส

โรม มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน 26 ธันวาคม 2021 วันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์

[1] วิดีโอสาส์นถึงผู้เข้าร่วมในการประชุม “เราจะยืนหยัดกับพระสมณลิขิตเตือใจ”ความปีติยินดีแห่งความรัก “Amoris Laetitia ได้ที่ไหน?” (9 มิถุนายน 2021)

[2] อ้างอิงสมณสาส์นเตือนใจ”ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” Evangelii gaudium, 24.

[3] วิดีโอสาส์นถึงผู้เข้าร่วมในการประชุม “เราจะยืนหยัดกับพระสมณลิขิตเตือนใจความปีติยินดีแห่งความรัก ได้ที่ไหน?” (9 มิถุนายน 2021)

[4] อ้างแล้ว

[5] คำปราศรัยสำหรับผู้เข้าร่วมแสวงบุญของครอบครัวในช่วงปีแห่งความเชื่อ (26 ตุลาคม 2013); เทียบ พระสมณลิขิตเตือนใจ”ความปีติยินดีแห่งความรัก”, 133.

[6] คำสอน 13 พฤษภาคม 2015; เทียบพระสมณลิขิตเตือนใจ”ความปีติยินดีแห่งความรัก “, 104.

[7] สาส์นปี 2021 วันสากลสำหรับปู่ย่าตายายและผู้สูงอายุ: “เราอยู่กับท่านเสมอ” (25 กรกฎาคม 2021)

++++++++++
30 ธันวาคม 2021 ฟ. วีระ อาภรณ์รัตน์ แก้ไข ตรวจทาน