Page 84 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 84
ศีลสมรสมีลักษณะพิเศษบางอย่างที่แตกต่างกับศีลศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ นั่นก็คือ ศีลสมรสเป็นศีล
ของสิ่งซึ่งเป็นอยู่แล้วในแผนการสร้างโลก และยังเป็นพันธสัญญาระหว่างสามีภรรยาอันเดียวกันกับ
พันธสัญญาที่พระผู้สร้างได้ทรงสถาปนา “แต่แรกเริ่ม” เพราะฉะนั้น การตัดสินใจของชายและหญิง
ที่จะเป็นสามีภรรยากันตามแผนการของพระเจ้าจึงหมายความว่า ได้เป็นไปตามการตัดสินใจที่จะ
ั
ั
ผูกพันชีวิตของตนด้วยสายใยแห่งความรักอนยกเลิกมิได้และแห่งความซื่อสัตย์อนปราศจากเงื่อนไข
ใดๆ โดยอาศัยความยินยอมสมัครใจฉันสามีภรรยาอนเพิกถอนมิได้ ที่จริงแล้ว การตัดสินใจแบบน ี้
ั
้
เรียกร้องให้มีจิตใจพร้อมที่จะนอบนอมต่อนำพระทัยของพระเจ้าให้ลุล่วงไป แม้อาจจะเป็นแบบที่ไม่
้
ี้
ั
รู้ตัวมากนกกตาม แต่ก็ยังจะเป็นไปไม่ได้ถ้าปราศจากพระหรรษทานของพระองค์ คนเหล่านได้เข้า
็
ั
กระบวนการอนเที่ยงแท้ซึ่งนำไปสู่ความรอด การประกอบพิธีศีลสมรสและการอบรมเตรียมตัวใน
็
ั้
ึ้
ระยะสั้นนน สามารถช่วยให้กระบวนการครบครันมากขน และบรรลุจุดหมายปลายทางได้กต่อเมื่อคู่
นั้นมีน้ำใสใจจริง
แต่ก็เป็นความจริงเหมือนกันว่า ในบางประเทศ คู่หมั้นขอแต่งงานที่วัดโดยมีเหตุผลทาง
สังคมมากกว่าทางศาสนาอย่างถ่องแท้ ไม่เป็นที่นาแปลกใจเลย ที่จริงการสมรสเป็นเหตุการณ์ที่
่
เกี่ยวข้องไม่เพียงแต่กบผที่สมรสกันเท่านั้น การสมรสยังเป็นเหตุการณ์ทางสังคมตามธรรมชาติของ
ั
ู้
มันซึ่งทำให้คู่สมรสมีพันธะต่อสังคม แต่ไหนแต่ไรมา พิธีสมรสเป็นวันฉลองซึ่งเป็นโอกาสให้
ครอบครัวต่างๆ และเพื่อนฝงมาพบปะกัน ฉะนนจึงปรากฏอย่างชัดเจนว่า มีเหตุผลทางสังคมมา
ั้
ู
สมทบกับเหตุผลส่วนตัวเมื่อคนมาขอสมรสกันในวัด
ี้
กระนั้นก็ดี ไม่ควรจะลืมว่าคู่หมั้นเหล่านี้ได้รับศีลล้างบาปแล้ว เพราะฉะนั้น ด้วยเหตุนเอง
พวกเขาจึงเข้ามีส่วนอย่างแท้จริงในพันธสัญญาแห่งการสมรสระหว่างพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักร
ั้
้
เขาได้ยอมรับแผนการของพระเจ้าที่เกี่ยวกับการสมรสด้วยนำในใจจริง ฉะนน อย่างนอยก็โดย
้
ี้
ปริยาย พวกเขายอมกระทำในสิ่งที่พระศาสนจักรมุ่งจะกระทำ เมื่อประกอบพิธีสมรส ด้วยเหตุน
เพียงแต่การที่มีเหตุผลทางสังคมปนอยู่ในการขอแต่งงานดังกล่าวเท่านน ก็ยังไม่เป็นเหตุสมควรที่ผ ู้
ั้
ั้
อภิบาลจะปฏิเสธการประกอบพิธีสมรสให้ ถึงกระนนก็ดี สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 ก็สอนว่า ศีล
ศักดิ์สิทธิ์บำรุงเลี้ยงเสริมสร้างความเชื่อ ด้วยคำพูดและส่วนต่างๆ ที่ประกอบพิธี ความเชื่อนี้แหละ
168
ที่คู่หมั้นกำลังแสวงหาด้วยน้ำใสใจจริงของเขา ซึ่งพระหรรษทานของพระคริสตเจ้าส่งเสริมและ
ทะนุบำรุงอย่างแน่นอน
นอกจากนน คงจะมีผลเสียเกิดขึ้น ถ้าได้วางหลักเกณฑ์ใหม่ที่จะพิจารณาอนมัติให้คู่สมรส
ั้
ุ
ประกอบพิธี ซึ่งหลักเกณฑ์เหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับระดับความเชื่อของผู้ที่เจตนาจะสมรสกัน ผลเสีย
อันดับแรกก็คือว่า อาจจะตัดสินวินิจฉัยโดยมีข้อมูลไม่เพียงพอและโดยทำให้เกิดการเลือกที่รักมักที่ชัง
ผลเสียอกประการหนงก็คือ อาจเกิดความระแวงสงสัยว่า การสมรสที่ผ่านไปแล้วเป็นการสมบูรณ์
ี
ึ่
แบบหรือไม่ ความระแวงนี้จะนำความเสียหายอนใหญ่หลวงมาให้แก่กลุ่มคริสตชน และจะนำความ
ั
กังวลเดือดร้อนมาสู่มโนธรรมของสามีภรรยาโดยใช่เหตุ ผลเสียประการสุดท้ายก็คือ อาจ
วิพากษ์วิจารณ์หรือไม่ยอมรับการสมรสจำนวนมากของพี่นองที่แยกตัวออกจากความเป็นหนงเดียว
ึ่
้
อย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักรนนว่าเป็นศีลสมรสโดยแท้ การไม่ยอมรับนมิใช่เป็นประเพณีของ
ั้
ี้
พระศาสนจักร
168
สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2, พระธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ (Sacrosanctum Concilium) ข้อ 59
84

