Page 14 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 14
พระองค์ในพิธีปิดการประชุมสมัชชา ข้าพเจ้าใคร่ขอคำอธิบายคำนี้ เพราะบางครั้งคนที่ตีความหมาย
ของคำนี้ต่างก็มีความเข้าใจที่แตกต่างกันไป
่
คำนี้ หมายถึง พัฒนาการในแง่ดีของชีวิตสมรส เราทุกคนพอจะทราบแล้ววา คู่สมรสไม่มี
ู่
โอกาสเตรียมตัวก่อนจะเข้าการสมรสได้เท่ากันทุกคทั้งในด้านความรู้ทั่วไป คำสอนที่ต่างคนต่างได้รับ
ู้
นิสัยใจคอของแต่ละคน สภาพทางสังคมและเศรษฐกิจ ประสบการณ์ และโอกาสที่จะได้พบผคน
ึ
เหตุผลนานปการนได้หล่อหลอมจิตสำนกของแต่ละคู่ตามวิธีหรือขั้นตอนที่ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะ
ั
ี้
อย่างยิ่งในเรื่องเกี่ยวกับความรักและชีวิตครอบครัว บางคู่ก็โชคดีได้รับการศึกษาอบรมอย่าง
ิ์
ต่อเนื่องและอย่างเฉลียวฉลาด ก่อนจะถึงเวลาที่จะสมทำให้เขามีทัศนะที่สูงส่งเกี่ยวกับเรื่องศักดศรี
ื่
ุ
ของคนหรือความสัมพันธ์ระหว่างคน เขามีจิตใจที่บรรลุถึงวุฒิภาวะและสามารถอทิศตัวให้แก่คนอน
ุ่
ตลอดจนควบคุมจิตใจของตนได้พอสมควร แต่บางคนเติบโตขึ้นมาโดยไม่เคยได้รับความอบอนเลย
ั้
มีแต่ได้รับความยุ่งยากลำบากต่างๆ นานา บางครั้งก็ต้องมีชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่มืดมน ฉะนน
เขาจึงมองเรื่องการสมรสเป็นเพียงโอกาสที่จะตอบสนองความเห็นแก่ตัวเท่านั้น ในระหว่างพวกแรก
ี้
กับพวกที่สองที่กล่าวมาแล้วน ยังมีคู่สมรสจำนวนมากซึ่งอยู่ในสภาพการณ์ที่ซับซ้อนด้วยเหตุว่าเรื่อง
ความรักและการสมรสเป็นการมาพบกันของคนสองคนซึ่งแต่ละคนต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่ไม่
เหมือนกัน แม้ว่าสภาพความเป็นจริงของคู่สมรสต่างๆ ในเวลาที่จะแต่งงานจะเป็นอย่างไรก็ตาม คู่
สมรสทุกคู่ต่างก็จะได้รับการเรียกร้องให้เป็นผศักดิ์สิทธิ์อย่างเท่าเทียมกันหมด การแสวงหาความ
ู้
ี
ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคู่สมรสทุกคู่เหมือนกับอากาศซึ่งจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต หรือพูดอกนย
ั
ึ่
หนงได้ว่า ไม่มี “ขั้นตอนของกฎเกณฑ์” (gradualness of the law) เหมือนอย่างเช่นว่า อาจมี
อุดมคติเกี่ยวกบความรักและการสมรสอย่างหนึ่ง สำหรับคู่สมรสที่พร้อมแล้วทุกอย่าง และมีอดม
ุ
ั
ึ่
คติอีกอย่างหนงในระดับที่ต่ำลงไปซึ่งน่าจะพอสำหรับคู่สมรสที่เคราะห์ร้ายในวัยเด็กหรือวัยหนมสาว
ุ่
แต่ความจริงแล้ว คู่สมรสทุกคู่ได้รับการเรียกร้องให้กลายเป็น “ภาพลักษณ์” ของพระเจ้าองค์
ั
ู้
เดียวกัน ทุกคู่มีพระบิดาองค์เดียวกนผทรงรักเขา ทุกคได้รับความช่วยเหลือและการไถ่กู้จากไม้
ู่
กางเขนของพระคริสตเยซูองค์เดียวกัน และทุกคู่ได้รับพลังแห่งความรักจากพระจิตเจ้าองค์เดียวกัน
แต่ก็เป็นสิ่งที่แนนอนเหมือนกันว่า ไม่มีคู่สมรสคู่ใดเลยที่จะสามารถบรรลุอดมคติของตน
ุ
่
ในทันทีที่สำเร็จพิธีสมรสในวัด แต่ละคู่ยังจะต้องก้าวไปสู่อุดมคติที่พระเจ้าทรงเสนอให้และที่พระศา
ั้
สนจักรจะช่วยให้บรรลุถึงให้ได้ตลอดชีวิตสมรสร่วมกัน ในภาษาลาติน คำว่า gradus นนแปลว่า
่
“การก้าวไปข้างหนา” ในระหว่างการก้าวไปข้างหนาน คู่สมรสแต่ละคู่จะต้องผานขั้นตอนต่างๆ
ี้
้
้
ี
่
ไม่ใช่เพื่อหาที่พักผอน แต่เป็นการกำหนดว่าต้องก้าวไปข้างหนาอกต่อไป โดยอาศัยเจตนาที่จริงจัง
้
ี
ี
ึ้
มากขนอก แต่ละคู่จะต้องเดินไปตามจังหวะก้าวและวิถีทางที่จริงจังมากขึ้นอก แต่ละคู่จะต้องเดิน
ไปตามจังหวะก้าวและวิถีทางของตนเอง จะต้องเผชิญกับอปสรรคที่เป็นสถานการณ์เฉพาะของตน
ุ
และได้รับชัยชนะที่เป็นเฉพาะของตนเช่นกัน “กฎเกณฑ์แห่งการก้าวหนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน” น ี้
้
อาจสรุปได้ว่า เป็นความจำเป็นที่คู่สมรสทุกคู่จะต้องก้าวไปข้างหนาสู่ความรักที่สมบูรณ์แบบด้วย
้
พละกำลังของตนและตามวิถีทางของตน “โดยที่พระกระแสเรียกของพระเจ้าและพระหรรษทานแห่ง
การไถ่กู้มนุษย์จะเป็นพลังให้แก่เขาอยู่เสมอ”
บทบาทของพระศาสนจักร ซึ่งหมายถึง คริสตชนทั้งหลาย ก็คือ
1. ต้องชี้แนะจุดหมายปลายทางหรือทิศทางอย่างชัดเจนให้แก่คู่สมรสทั้งหลาย
14