Page 45 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 45
ตรัสว่า “ปล่อยเด็กเล็กๆ มาหาเราเถิด… พระอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เป็นเหมือนเด็ก
75
ี้
เหล่าน”
้
ี้
ในที่นข้าพเจ้าขอกล่าวเนนถึงคำพูดที่ข้าพเจ้าได้กล่าวในสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ ใน
วันที่ 2 ตุลาคม 1979 ที่ว่า “ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงความยินดีซึ่งเด็กๆ นำมาสู่เราทุกคน เด็กๆ
ิ
เปรียบเสมือนฤดูใบไม้ผลิของชีวตหรืออนาคตของประเทศฃาติของเราทั้งหลาย ประเทศทุกประเทศ
ในโลก ระบบการเมืองทุกๆ ระบบจะสามารถใฝ่ฝันถึงอนาคตของตนได้ ก็โดยเฝ้ามองเยาวชนรุ่นใหม่
ี้
เหล่าน พวกเขาเหล่านแหละที่จะรับมรดกสืบต่อจากพ่อแม่ในรูปแบบต่างๆ เช่น ค่านยมต่างๆ
ี้
ิ
บทบาทหนาที่ ความมุ่งมาดปรารถนาของประเทศชาติที่เขาสังกัดและของครอบครัวมนษย์ทั้งปวง
ุ
้
ั้
เพราะฉะนั้นความเป็นห่วงเป็นใยในเด็กแม้ก่อนที่จะเกิด ตงแต่วินาทีแรกที่เขาปฏิสนธิและต่อมาในวัย
ั้
ั้
เด็กตลอดจนในวัยรุ่นของเขานน ก็เป็นการพิสูจน์ขั้นพื้นฐานว่ามนษย์ประพฤติต่อกันอย่างไร ดังนน
ุ
ข้าพเจ้าจะอวยพรอะไรให้แก่ประเทศชาติทั้งปวงให้แก่มนุษยชาติทั้งมวล ให้แก่เด็กทั้งหลายบนพื้นโลก
ุ
ได้ดีไปกว่าอนาคตที่รุ่งเรืองขึ้นโดยการเคารพสิทธิมนษยชนจะได้ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ปี ค.ศ. 2000 เข้าไปทุกที”
76
การยอมรับรองเด็กที่เพิ่งเกิดมา การให้ความรักต่อเขา การเทิดเกียรติเขา การดูแลเขาใน
หลายๆ รูปแบบ ซึ่งรวมเป็นเป้าหมายอันเดียวกัน เช่น ในด้านปัจจัย จิตใจ การศึกษาอบรม และ
ี้
ด้านจิตวิญญาณ ทั้งหมดนควรเป็นลักษณะเฉพาะที่คริสตชนจะละเว้นมิได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ครอบครัวคริสตชน ดังนน ในขณะที่เด็กจะสามารถเติบโตได้ในทาง “พระปรีชาญ พระชนมายุ
ั้
ุ
77
้
ั้
และพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและต่อหนามนษย์” นน เขาก็ยังมีส่วนร่วมในการ
78
สร้างสรรค์ครอบครัวให้เป็นกลุ่มบุคคลได้ และยังช่วยบิดามารดาให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นด้วย
คนสูงอายุในครอบครัว
27. มีวัฒนธรรมในบางแห่งที่คนสูงอายุได้รับความเคารพอย่างสูงและได้รับความรักอย่างมาก ท่าน
ไม่ได้ถูกทอดทิ้งแยกออกจากครอบครัวหรือถูกถือเป็นภาระที่ไร้ประโยชน์ แต่ตรงกันข้ามยังคงเป็นผ ู้
ิ
ที่รวมสนทในชีวิตครอบครัวและมีบทบาทที่เต็มไปด้วยความรับผดชอบ ในขณะเดียวกันท่านก็ยังให้
ิ
“ความเป็นอิสระ” แก่ครอบครัวใหม่ ยิ่งกว่านั้นท่านก็ยังมีภารกิจที่ประเสริฐอีกประการหนึ่งคือ เป็น
สักขีพยานถึงอดีตและเป็นผู้ดลใจเยาวชนและผู้ใหญ่ในวันหน้าให้มีความปรีชาสุขุม
ในทางตรงกันข้าม มีวัฒนธรรมในอกบางแห่งทั้งในอดีตและปัจจุบันที่คนสูงอายุต้องถูกปัด
ี
ออกจากสังคมอย่างที่ไม่ควรจะเป็น และทำให้คนสูงอายุต้องทนทรมานอย่างแสนสาหัส รวมทั้ง
่
ี้
ึ่
ครอบครัวทั้งหลายต้องสูญเสียคุณสมบัติฝายจิตใจด้วย ที่เป็นเช่นนสาเหตุที่สำคัญประการหนงมา
จากการพัฒนาอุตสาหกรรมและความเป็นอยู่อย่างแออัดในกรุงซึ่งไม่มีระเบียบ
งานอภิบาลของพระศาสนจักรจำเป็นต้องเป็นเครื่องกระตุ้นทุกคนให้รู้จักสังเกตและบำรุง
่
่
ู้
คุณค่าของบทบาทของผสูงอายุในชุมชนฝายบ้านเมืองและฝายศาสนา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน
ิ
ครอบครัวเอง อันที่จริง “ชีวตของผู้สูงอายุช่วยเราให้เข้าใจค่านิยมต่างๆ วาสำคัญมากน้อยอย่างไร
่
ื่
์
ชัดเจนขึ้น ชวิตของท่านส่อให้เห็นว่าคนรุ่นต่างๆ มีความต่อเนองกันอย่างไร และเป็นข้อพิสูจนที่นา
่
ี
75 ลก 18:16; มธ 19:14, มก 10:14
76
John Paul II, Address to General Assembly of United Nations (2 October 1979), 1159
77
ลก 2:52
78
สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2, พระธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักรในโลกปัจจุบัน (Gaudium et Spes) ข้อ 48
45