Page 34 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 34
ู้
จะหมายถึงความรักของพระเจ้าเอง “ผทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความเป็นบิดาทั้งในสวรรค์และบน
36
แผ่นดิน”
ั้
อย่างไรก็ดี ไม่ควรจะลืมว่าในกรณีที่ไม่สามารถบังเกิดบุตรได้นน ชีวิตสมรสก็ยังไม่ขาดคุณค่า
่
ื่
เพราะเหตุว่าการที่ร่างกายเจริญพันธุ์ไม่ได้ อาจจะเปิดโอกาสให้สามีภรรยาเออเฟื้อเผอแผต่อความ
ื้
เป็นบุคคลของมนุษย์ในทางอื่นที่มีคุณค่าสูงส่ง เช่น การรับบุตรบุญธรรม การอบรมดูแลเด็กรูปแบบ
ต่างๆ การช่วยเหลือแก่ครอบครัวอื่นๆ แก่เด็กยากจนหรือเด็กพิการ
ครอบครัวเป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
15. ในชีวิตสมรสและครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่างๆ ค่อยๆ ประสานกันอย่างซับซ้อน
้
เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยา พ่อแม่กับลูก ลูกกับพ่อแม่ พี่ๆ กับนองๆ ความสัมพันธ์
ุ
หลายประเภทนนเป็นการนำมนษย์แต่ละคนให้เข้าไปร่วมกับ “ครอบครัวมวลมนษย์” และกับ
ุ
ั้
“ครอบครัวของพระเจ้า” อันได้แก่พระศาสนจักร
การสมรสและครอบครัวคริสตชนเสริมสร้างพระศาสนจักร ด้วยเหตุว่าในแวดวงครอบครัว
ั้
ึ่
้
ุ
ิ
นน บุคคลใดบุคคลหนงไม่ได้เพียงแต่ถือกำเนดมาและเข้าไปร่วมกับสังคมมนษย์ทีละเล็กทีละนอย
โดยทางการอบรมศึกษาเท่านั้น แต่เมื่อเขาเกิดใหม่ทางศีลล้างบาปและเมื่อเขาได้รับการศึกษาอบรม
ั
ตามหลักความเชื่อ เขาก็ยังได้เข้าเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า อนได้แก่พระศาสนจักรด้วย
ื่
ครอบครัวมนุษย์ซึ่งแตกสลายเนองจากบาปแล้วนั้น ก็ได้รับการสถาปนาเสียใหม่จากฤทธาน ุ
37
ภาพแห่งความตายและการกลับคืนชีพของพระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ การสมรสแบบคริสตชนที่ได้มี
ส่วนร่วมในฤทธานภาพของเหตุการณ์ที่ช่วยให้รอดนน ก็ได้เป็นวิถีทางตามธรรมชาติที่มนษย์จะเข้า
ั้
ุ
ุ
เป็นสมาชิกในครอบครัวใหญ่ของพระศาสนจักร
ั้
ดังนั้น ภารกิจซึ่งชายหญิงได้รับตั้งแต่ปฐมกาลให้เจริญพันธุ์และทวีจำนวนขึ้นนนจึงได้บรรลุ
ถึงความจริงทุกประการและได้สำเร็จผลอย่างครบบริบูรณ์
เช่นเดียวกัน พระศาสนจักรก็ยอมรับว่าครอบครัวที่เกิดด้วยศีลสมรสเป็นจุดเริ่มแรกและเป็น
ตำแหน่งที่ซึ่งพระศาสนจักรจะสามารถเข้าประสานกับคนรุ่นต่างๆ ได้ และในทางกลับกัน พวกเขาก็
สามารถเข้าประสานกับพระศาสนจักรได้ด้วย
การสมรสและการถือพรหมจรรย์
ั้
16. การถือพรหมจรรย์หรือการถือความเป็นโสดเพราะเห็นแก่พระอาณาจักรของพระเจ้านน มิได้
ขัดแย้งกับศักดิ์ศรีของการสมรส การสมรสและการถือพรหมจรรย์ต่างก็เป็นวิถีทางสองแบบในการ
ั
ึ่
แสดงออกและในการดำเนนชีวตตามธรรมล้ำลึกอันหนงอนเดียวกันแห่งพันธสัญญาระหว่างพระเจ้า
ิ
ิ
ุ
กับมนษย์ ถ้าการสมรสมิได้รับการยกย่อง การถือพรหมจรรย์เพื่อเห็นแก่พระเจ้าก็ไม่สามารถดำรง
อยู่ได้ ถ้าเพศมนษย์มิได้รับการยอมรับว่าเป็นคุณค่าอนยิ่งใหญ่ซึ่งพระผสร้างมอบให้แล้ว การสละ
ู้
ั
ุ
เรื่องเพศเพื่อพระอาณาจักรสวรรค์ก็เป็นสิ่งที่ไร้สาระ
นกบุญยอห์น คริสโซสโธม กล่าวไว้ได้ถูกต้องว่า “ผใดสบประมาทการสมรสผนนก็สบ
ู้
ั
ั้
ู้
ประมาทพรหมจรรย์ด้วย ผใดยกย่องการสมรส ผู้นั้นก็ทำให้พรหมจรรย์ได้รับการยกย่องและโชติช่วง
ู้
36
อฟ 3:15
37
สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2, พระธรรมนูญว่าด้วยพระศาสนจักรในโลกปัจจุบัน (Gaudium et Spes) ข้อ 78
34