Page 53 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 53
ั้
พระเจ้าเองทรงใช้ เพื่อกระตุ้นและพยุงสรรพสิ่งที่ทรงสร้างขึ้นมา และเพื่อนำสิ่งสร้างเหล่านนไปสู่
บรมสุข
ิ
ุ
ส่วนมนษย์ที่พระเจ้าทรงเรียกให้ดำเนนแผนการที่เปี่ยมไปด้วยปัญญาและความรักด้วย
จิตสำนึกรับผิดชอบนั้น เป็นสิ่งสร้างที่ดำรงอยู่ในกระแสประวัตศาสตร์ ซึ่งในแต่ละวัน มนุษย์สร้าง
ิ
ตัวเองขึ้นมาด้วยการตัดสินใจนานปการ ฉะนน เขาจึงรู้จักชอบและปฏิบัติคุณงามความดีตาม
ั้
ั
ขั้นตอนแห่งการเจริญเติบโต
เช่นเดียวกัน ในส่วนเกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญคุณงามความดี สามีภรรยาจำต้องก้าวหน้าโดย
ั
ไม่หยุดยั้ง พลังจูงใจเขาก็คือ ความมุ่งมาดปรารถนาอนจริงจังและบังเกิดผล ที่จะเรียนรู้คุณค่า
ต่างๆ ซึ่งพระธรรมบัญญัติได้รับประกันและส่งเสริมไว้ พร้อมกับเจตนาอนซื่อตรงและแรงกล้าที่จะ
ั
เอาคุณค่าเหล่านั้นมาประยุกต์เป็นรูปเป็นร่างในเวลาที่ต้องตัดสนใจเลือกวิถีทางจริงๆ กระนั้นก็ด ี
ิ
คู่สมรสไม่น่ามองดูกฎเกณฑ์เป็นเสมือนเพียงอุดมคติที่เขาควรจะบรรลุถึงในเวลาภายหลังเท่านน แต่
ั้
ุ
เขาต้องถือว่าเป็นพระบัญญัติของพระคริสตเจ้าที่เรียกร้องให้เขาพยายามฟันฝ่าอปสรรคต่างๆ ให้ได้
ั้
ดังนน สิ่งที่เราเรียกว่า “กฎเกณฑ์แห่งขั้นตอน” หรือการก้าวหนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนนน ไม่
้
ั้
เหมือนกัน “ขั้นตอนของกฎเกณฑ์” ที่เสมือนกับว่าพระธรรมบัญญัติประกอบด้วยขั้นตอนหรือพระ
บัญญัติที่มีรูปแบบต่างๆ แล้วแต่คนและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน สามีภรรยาทั้งมวลได้รับการ
เรียกร้องให้บรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตสมรสตามพระประสงค์ของพระเจ้า และพระกระแสเรียก
นี้จะบรรลุผลสำเร็จก็ต่อเมื่อ บุคคลสามารถตอบสนองพระบัญญัติของพระเจ้าโดยไว้วางใจในพระ
หรรษทานของพระองค์และในเจตนาของตนเองด้วยในสงบราบรื่น” ในทำนองเดียวกัน เป็น
95
บทบาทของพระศาสนจักรที่จะต้องจัดกระบวนการอบรมเพื่อก่อนอนหมดให้คู่สมรสยอมรับอย่าง
ื่
ุ
ชัดเจนว่า คำสอนที่บันทึกไว้ในพระสมณสารว่าด้วย “ชีวิตมนษย์” นน เป็นบรรทัดฐานในการ
ั้
ิ
ดำเนนชีวิตทางเพศ และให้เขาตั้งใจอย่างแนวแนว่า จะปรับปรุงสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่จำเป็นใน
่
่
การปฏิบัติตามบรรทัดฐานน ี้
สมาชิกสมัชชาพระสังฆราชได้ให้ข้อสังเกตว่า กระบวนการอบรมดังกล่าวบ่งชี้ถึงชีวตสมรส
ิ
อย่างครบถ้วน เพราะฉะนั้น ภารกิจการสืบทอดชีวิตนั้นต้องประสานเข้ากับภารกิจทั่วไปของชีวิต
คริสตชนทั้งหมด ซึ่งปราศจากไม้กางเขนจะไม่สามารถบรรลุถึงการกลับคืนชีพได้ ฉันใดก็ฉันนั้น คน
ทั่วไปคงเข้าใจดีแล้วว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะละเว้นจิตตารมณ์แห่งความเสียสละออกจากชีวิต
ครอบครัว แต่ตรงกันข้ามควรจะแสวงหาจิตตารมณ์นอย่างเต็มใจ เพื่อให้ความรักของคู่สมรสหยั่ง
ี้
รากลึกมากขึ้นและกลายเป็นบ่อเกิดแห่งความเปรมปรีดิ์ที่ล้ำลึก
ู้
ทุกคนต่างก็ต้องเดินก้าวไปข้างหนาตามเส้นทางดังกล่าว แต่สำหรับผที่มีบทบาทในการ
้
อภิบาลครอบครัวไม่ว่าพระสงฆ์ นกบวช และฆราวาสก็ตาม ต้องประกอบด้วย ความคิดอาน
ั
่
วิชาความรู้ และการอบรมศึกษาที่เหมาะสมเป็นพิเศษ บุคคลเหล่านี้จึงจะสามารถช่วยเหลือคู่สมรส
่
่
ตามวิถีทางของเขาทั้งในแงชีวิตปกติของมนษย์และในแงจิตวิญญาณ วิถีทางนก็ต้องผานการ
ี้
ุ
่
ั
่
คำนงถึงบาป การตั้งใจอนแนวแน่ว่าจะเคารพต่อหลักศลธรรม ตลอดจนการพึ่งพาอาศัยแห่งการ
ึ
ี
กลับคืนดีกับพระเจ้า อนึ่ง จงรำลึกไว้เสมอว่า ความสัมพันธ์ของคู่สมรสประกอบด้วยเจตจำนงของ
บุคคลทั้งสอง ซึ่งทั้งสองควรจะแสดงความปรองดองกันทั้งฝายจิตใจและพฤติกรรม ความ
่
95
John Paul II, Homily at the close of the Sixth Synod of Bishops (25 October 1980), 8:AAS 72 (1980),
1083
53

