Page 6 - ครอบครัวคริสตชนในโลกปัจจุบัน
P. 6
สังเกตเห็นได้ กายนั้นสามารถพูดได้ กระทำได้ มองได้ เดินไปหาคนอื่นหรือเดินจากไปได้ กายแม้
จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นมากในการสมาคมติดต่อแต่ก็มิได้เป็นทุกอย่างในความเป็นบุคคลทั้งหมด
ึ่
สติปัญญา ความทรงจำ เจตนา ต่างก็เป็นองค์ประกอบส่วนหนงของ “บุคคล” ด้วย ดังนั้นความ
ุ
ึ
เป็นบุคคลของฉันก็คือ ตัวฉันในรูปของร่างกาย ความนกคิด เจตนา อทิศตัวให้แก่ผอน และใน
ื่
ู้
ื่
เวลาเดียวกันก็รับการติดต่อสมาคมที่คนอนพยายามยื่นให้แก่ฉัน เราจะเห็นได้ว่า ยิ่งฉันมี
ื่
ั้
ความสัมพันธ์กับคนอนมากแค่ไหน ฉันก็ยิ่งมีชีวิตมากขึ้นแค่นน และยิ่งเก็บตัวมากแค่ไหน ก็ยิ่งมี
ความเป็นบุคคลและมีความเป็นมนุษย์น้อยลงแค่นั้น
บุคคล - ผู้อื่น - องค์ผู้ทรงแตกต่างจากมนุษย์อย่างที่สุด
ึ่
มนษย์จึงมิใช่เป็นเพียงอตตบุคคลที่อยู่ในหมู่บุคคลอนๆ มิใช่เป็นเพียงเมล็ดข้าวเม็ดหนงใน
ั
ื่
ุ
ู้
กองข้าวทั้งกอง แต่เป็นบุคคลผทรงพลัง เปี่ยมด้วยเกียรติและความรับผิดชอบที่ไม่เหมือนใคร มี
ื่
ู้
ุ
ู้
ื่
ึ
ุ
ิ
ความสำนกในการอทิศตัวให้แก่ผอน และยังเป็นอสระที่จะรับการอทิศตัวจากผอนหรืออาจจะอยู่
ื่
ื่
ู้
ี้
เฉยๆ อย่างไม่ยินดียินร้ายก็ได้ ผอนในที่นก็หมายถึง “บุคคลอนๆ” ที่เป็นชายหรือหญิง แต่ยิ่งไป
ู้
ุ
กว่านนยังรวมถึง “องค์ผทรงแตกต่างจากมนษย์อย่างที่สุด” ด้วย คือ องค์พระเจ้านนเอง
ั้
ั่
ู้
ุ
พระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดที่เป็นผสร้างของ “บุคคล” แต่ละคน ทรงอทิศพระองค์เพื่อ “บุคคล”
ุ
ี้
และทรงเรียกให้ “บุคคล” อทิศตัวให้พระองค์เช่นกัน และด้วยการแลกเปลี่ยนเช่นนเองที่ก่อให้เกิด
ความรอดของ “บุคคล” หรือเกิดความสำเร็จอย่างสมบูรณ์และอย่างสูงสุด
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาด้วยความรักและทรงสร้างเพื่อความรัก
ี้
โดยการยึดถอความคิดนเป็นหลัก พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 ทรงเรียกร้องอย่างแข็ง
ื
ึ
ขันให้เราปรับปรุงความนกคิดที่มีต่อความรักและการแต่งงาน พระเจ้ามิใช่องค์ผู้บัญญัติกฎเกณฑ์เพื่อ
ู้
ใช้บังคับสิ่งสร้างซึ่งก็ต้องการความเป็นอิสระ แต่ทรงเป็นผที่ “ได้ทรงเรียกมนุษย์มาให้เกิดมีชีวิตด้วย
ความรัก และยังคงเรียกให้เขาเข้าถึงความรักด้วย” (ข้อ 11) หมายถึง ให้มีความสัมพันธ์ติดต่อกับ
ู้
พระองค์ และกับ “ผอน” พระศาสนจักรมิใช่คณะลูกขุนที่ประกอบด้วยชายโสดผมีใจหิน ผไม่เข้าใจ
ู้
ื่
ู้
อะไรเลยเกี่ยวกับความรักและการแต่งงาน และออกกฎข้อบังคับที่แสนหนกและเคร่งครัดแก่มวล
ั
มนุษย์ แต่พระศาสนจักรเป็นเสมือนเจ้าสาวที่อุทิศตัวแก่เจ้าบ่าวผู้ศักดิ์สิทธิ์ และได้รับการไถ่กู้ให้เข้าถึง
ความสมบูรณ์โดยอาศัยพระคุณจากพระโลหิตของเจ้าบ่าว พระศาสนจักรเป็น “มารดา” ผู้นำบุคคลแต่
ละคนที่เป็นองค์ประกอบของพระศาสนจักรให้ไปสู่ความสมบูรณ์โดยชี้แนะแนวทางในการรับเอา
ื่
ู้
พระคุณจาก “องค์ผทรงแตกต่างจากมนษย์อย่างที่สุด” และในการน้อมรับ “บุคคลอนๆ” โดยเฉพาะ
ุ
อย่างยิ่ง ผู้ที่เป็นสามีหรือภรรยาของตน “มารดา” ผู้นี้ให้การสนับสนุนความปรารถนาของแต่ละบุคคล
ื่
ิ
ุ
ุ
ู้
ในการอทิศตนเองอย่างเป็นอสระแก่บุคคลอนและแก่ “องค์ผทรงแตกต่างจากมนษย์อย่างที่สุด”
เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติอันแท้จริงของเขา และบรรลุถึงความดีอันจริงแท้ที่สุด
ข้อเรียกร้องของการเป็น “บุคคล”
เมื่อใคร่ครวญตามแสงสว่างนี้ จะพบว่า ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและสภาพที่ยกเลิกไม่ได้
ของการแต่งงานซึ่งรวมถึงการที่จะไม่เห็นด้วยกับการหย่าร้าง กับการทดลองใช้ชีวิตร่วมกันก่อน
ิ
แต่งงาน กับการคุมกำเนดแบบวิทยาศาสตร์ กับการทำแท้ง และยังรวมไปถึงการเคารพสิทธิสตรี
เด็ก คนแก่ และคนพิการนั้น จึงมิใช่เป็นกฎจากภายนอกที่จะต้องรักษา แต่ในทางตรงกันข้ามเป็น
6